1. Smartphone คืออะไร เเละมีประโยชน์อย่างไรบ้างบอกมา 5 ประการ
Smartphone คือ เป็นโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ชนิดหนึ่งที่ที่รับรองรับปฏิบัติการต่างๆได้เสมือนยกเอาคุณสมบัติที่ PDA เเละคอมพิวเตอร์มาไว้ในโทรศัพท์ เช่น ios (ที่ลงในมือถือรุ่น Iphone) ที่มาพร้อมกับความสามารถในการเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สายหรืออินเตอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านระบบเครือข่ายโทรศัพท์ในระบบ 3G นั้นเองที่มีความเร็วมากพอในการเล่นเน็ต การค้นหาข้อมูล การดาวโหลดเเอพ เกมส์ เเละเล่นเครือข่ายทางสังคมอื่นๆ เช่น Facebook Google เป็นต้น
ประโยชน์ของSmartphon
1. ถ่ายรูป
2. เเอพเเต่งรูป
3. ดูหนัง / ฟังเพลง
4. อ่าน / เขียน / เเก้ไข ไฟล์เอกสาร
5. เเชท เช่น Facebook Twiter
Retrieved from :
http://www.mindphp.com
https://sites.google.com/site/itapiwat314/-sma-rth-fon-smart-phone
http://www.lgmobilelover.com/home/10-utility-from-smart-android/
2. Android คืออะไร ปกติจะพบสิ่งนี้ที่ไหน
Android คือ เป็นระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์พกพาพา เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ เน็ตบุ๊ก ทำงานบนลินุกซ์ เคอร์เนล เริ่มพัฒนาโดยบริษัทแอนดรอยด์ จากนั้นบริษัทแอนดรอยด์ถูกซื้อโดยกูเกิลและนำแอนดรอยด์ไปพัฒนาต่อ ภายหลังถูกพัฒนาในนามของ Open Handset Allianceทางกูเกิลได้เปิดให้นักพัฒนาสามารถแก้ไขโค้ดต่างๆด้วยภาษาจาวา และควบคุมอุปกรณ์ผ่านทางชุด Java libraries ที่กูเกิลพัฒนาขึ้น
ปกติจะพบได้ที่ : มือถือระบบ Android
- Aapple
- Samesung
- smartphon
Retrieved from :
http://th.wikipedia.org/wiki
3. Cyber Bully หมายถึงอะไร อธิบายมา 1 ย่อหน้าไม่ต่ำกว่า 10 บรรทัด
Cyberbullying คือ การรังแกกันผ่านโลกไซเบอร์ระหว่างเด็กกระทำต่อเด็กด้วยกัน โดยรูปแบบการรังแกกันมีทั้งการใส่ร้ายป้ายสี การใช้ถ้อยคำหยาบคายต่อว่าผู้อื่น หรือการส่งต่อข้อมูลลับเพื่อทำให้ผู้อื่นเสียหายผ่านทางอินเตอร์เน็ต หรือแม้แต่การส่งข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยการรังแกกันจะต้องมีความต่อเนื่อง และทำให้ฝ่ายที่ถูกกระทำรู้สึกเจ็บปวดหรือได้รับผลกระทบทางจิตใจ
Cyberbullying เป็นความรุนแรงที่ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้กระทำ ซึ่งสามารถทำความรุนแรงกับใคร ที่ไหน หรือเมื่อไรก็ได้ และผู้กระทำก็สามารถจะตอกย้ำความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยที่สักวันหนึ่งเหยื่อที่เคยถูกกระทำ ก็อาจกลับมาเป็นผู้กระทำความรุนแรงเองเพื่อแก้แค้น เป็นวงจรความรุนแรงที่ไม่มีจุดจบ ด้วยเห็นว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดาที่ใครๆ เขาก็ทำกัน ซึ่งผลกระทบก็คือความรุนแรงและบาดแผลที่เกาะกินในจิตใจของเด็กๆ
นอกจากนั้นนักเลงไซเบอร์อาจจะส่งข้อความให้ร้ายไปยังผู้อื่น หรือเขียนคอมเมนต์ในเว็บไซต์หรือบล็อกที่เป็นการต่อว่า การประทุษร้ายซ้ำๆ หลายครั้งแม้จะดูเป็นบาดแผลที่ห่างไกลหัวใจจนไม่น่าใส่ใจสำหรับผู้ใหญ่ แต่สำหรับเด็กหรือวัยรุ่นถือเป็นการทำร้ายที่รุนแรงมาก ส่งผลให้รู้สึกซึมเศร้า, หงุดหงิดอาละวาด, และทำร้ายตัวเองจากอารมณ์หุนหันพลันแล่นได้
จากการสำรวจเด็กในกรุงเทพฯ และปริมณฑล พบว่า มีเด็กถึง 48% ที่อยู่ในวงจร Cyberbullying โดยอาจเป็นทั้งผู้กระทำ เหยื่อ และผู้เฝ้าดูหรือส่งต่อข้อมูลไปยังกลุ่มอื่นๆ ซึ่งเด็กส่วนใหญ่ที่อยู่ในวงจรนี้จะอยู่ในชั้นมัธยมต้น โดยเวลาที่ใช้ในการ Cyberbullying คือ ช่วง 6 โมงเย็น – 3 ทุ่ม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เด็กๆ ทำการบ้านและใช้อินเตอร์เน็ต
Retrieved from :
http://healthkm.exteen.com/20101006/cyberbullying
http://www.healthygamer.net/information/article/9874
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น