การพัฒนาทางเทคโนโลยีเพื่อนการสื่อสาร

การพัฒนาทางเทคโนโลยีเพื่อนการสื่อสาร
การศึกษาระบบทางไกล

วันพุธที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556

1. Smartphone   คืออะไร    เเละมีประโยชน์อย่างไรบ้างบอกมา   5  ประการ

            Smartphone    คือ   เป็นโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ชนิดหนึ่งที่ที่รับรองรับปฏิบัติการต่างๆได้เสมือนยกเอาคุณสมบัติที่  PDA  เเละคอมพิวเตอร์มาไว้ในโทรศัพท์  เช่น  ios  (ที่ลงในมือถือรุ่น  Iphone)  ที่มาพร้อมกับความสามารถในการเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สายหรืออินเตอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านระบบเครือข่ายโทรศัพท์ในระบบ  3G  นั้นเองที่มีความเร็วมากพอในการเล่นเน็ต  การค้นหาข้อมูล  การดาวโหลดเเอพ  เกมส์  เเละเล่นเครือข่ายทางสังคมอื่นๆ  เช่น   Facebook   Google   เป็นต้น

            ประโยชน์ของSmartphon
1.  ถ่ายรูป
2.  เเอพเเต่งรูป
3.  ดูหนัง / ฟังเพลง
4.  อ่าน / เขียน / เเก้ไข ไฟล์เอกสาร
5.  เเชท   เช่น    Facebook    Twiter

Retrieved   from  :

               http://www.mindphp.com
               https://sites.google.com/site/itapiwat314/-sma-rth-fon-smart-phone
               http://www.lgmobilelover.com/home/10-utility-from-smart-android/

2. Android   คืออะไร    ปกติจะพบสิ่งนี้ที่ไหน

         Android    คือ   เป็นระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์พกพาพา   เช่น   โทรศัพท์มือถือ    แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์    เน็ตบุ๊ก    ทำงานบนลินุกซ์ เคอร์เนล    เริ่มพัฒนาโดยบริษัทแอนดรอยด์                       จากนั้นบริษัทแอนดรอยด์ถูกซื้อโดยกูเกิลและนำแอนดรอยด์ไปพัฒนาต่อ ภายหลังถูกพัฒนาในนามของ Open Handset Allianceทางกูเกิลได้เปิดให้นักพัฒนาสามารถแก้ไขโค้ดต่างๆด้วยภาษาจาวา  และควบคุมอุปกรณ์ผ่านทางชุด Java libraries ที่กูเกิลพัฒนาขึ้น

            ปกติจะพบได้ที่ :  มือถือระบบ Android   

                                    - Aapple

                                    - Samesung  

                                    - smartphon


Retrieved   from  :

            http://th.wikipedia.org/wiki


3. Cyber  Bully    หมายถึงอะไร    อธิบายมา  1  ย่อหน้าไม่ต่ำกว่า  10  บรรทัด   

           Cyberbullying   คือ  การรังแกกันผ่านโลกไซเบอร์ระหว่างเด็กกระทำต่อเด็กด้วยกัน โดยรูปแบบการรังแกกันมีทั้งการใส่ร้ายป้ายสี การใช้ถ้อยคำหยาบคายต่อว่าผู้อื่น หรือการส่งต่อข้อมูลลับเพื่อทำให้ผู้อื่นเสียหายผ่านทางอินเตอร์เน็ต หรือแม้แต่การส่งข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยการรังแกกันจะต้องมีความต่อเนื่อง และทำให้ฝ่ายที่ถูกกระทำรู้สึกเจ็บปวดหรือได้รับผลกระทบทางจิตใจ

Cyberbullying เป็นความรุนแรงที่ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้กระทำ ซึ่งสามารถทำความรุนแรงกับใคร ที่ไหน หรือเมื่อไรก็ได้ และผู้กระทำก็สามารถจะตอกย้ำความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยที่สักวันหนึ่งเหยื่อที่เคยถูกกระทำ ก็อาจกลับมาเป็นผู้กระทำความรุนแรงเองเพื่อแก้แค้น เป็นวงจรความรุนแรงที่ไม่มีจุดจบ ด้วยเห็นว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดาที่ใครๆ เขาก็ทำกัน ซึ่งผลกระทบก็คือความรุนแรงและบาดแผลที่เกาะกินในจิตใจของเด็กๆ

นอกจากนั้นนักเลงไซเบอร์อาจจะส่งข้อความให้ร้ายไปยังผู้อื่น หรือเขียนคอมเมนต์ในเว็บไซต์หรือบล็อกที่เป็นการต่อว่า การประทุษร้ายซ้ำๆ หลายครั้งแม้จะดูเป็นบาดแผลที่ห่างไกลหัวใจจนไม่น่าใส่ใจสำหรับผู้ใหญ่ แต่สำหรับเด็กหรือวัยรุ่นถือเป็นการทำร้ายที่รุนแรงมาก ส่งผลให้รู้สึกซึมเศร้า, หงุดหงิดอาละวาด, และทำร้ายตัวเองจากอารมณ์หุนหันพลันแล่นได้

จากการสำรวจเด็กในกรุงเทพฯ และปริมณฑล พบว่า มีเด็กถึง 48% ที่อยู่ในวงจร Cyberbullying โดยอาจเป็นทั้งผู้กระทำ เหยื่อ และผู้เฝ้าดูหรือส่งต่อข้อมูลไปยังกลุ่มอื่นๆ ซึ่งเด็กส่วนใหญ่ที่อยู่ในวงจรนี้จะอยู่ในชั้นมัธยมต้น โดยเวลาที่ใช้ในการ Cyberbullying คือ ช่วง 6 โมงเย็น – 3 ทุ่ม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เด็กๆ ทำการบ้านและใช้อินเตอร์เน็ต


 Retrieved   from  :

           http://healthkm.exteen.com/20101006/cyberbullying

           http://www.healthygamer.net/information/article/9874


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น